การล้อเลียนเหยียดเพศในรัซเซียมีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากการประกาศใช้กฎหมายของผู้นำรัซเซีย ที่ห้ามให้ใครนอกจากชาย-หญิง รับเด็กมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม.สืบเนื่องจากการแก้ไข้รัฐธรรมนูญซึ่งให้อภิสิทธิ์แก่ปูตินในการบริหารประเทศไปอีก 15 ปี จนถึงพ.ศ.2579 ซึ่งถือเป็นเวลาที่ยาวนานสำหรับการเป็นประธานาธิบดี.นอกจากการแก้ไขกฎหมายเพื่อต่อเวลาให้กับประธานาธิบดีปูตินแล้ว กฎหมายอีกหมวดหนึ่งที่เป็นที่หน้าสนใจ และถูกจับตามองทั้งในและนอกรัซเซีย นั้นคือกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิทางเพศ ซึ่งไม่ได้ใช้แค่เฉพาะชายหญิงแต่ยังครอบคลุมไปถึงผู้มีความหลากหลายทางเพศในรัซเซีย.แต่แทนที่จะเป็นกฎหมาย "เพิ่ม" ความอิสระและเติมเสรีภาพให้กับชาว LGBTQ+ ดันเป็นกฎหมาย "ห้าม" ซะงั้น ห้ามที่ว่าก็คือ ห้าม LGBTQ+ รับเด็กมาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม หรือหากจะแปลเป็นภาษาบ้านเราให้เข้าใจง่ายหน่อย ก็คือ "ห้ามเลี้ยงลูก".กฎหมายดังกล่าวได้ประกาศใช้ทันทีหลังจากการลั่นวาจาของผู้นำรัซเซีย มันส่งผลต่อชีวิต LGBTQ+ ที่อยู่ในประเทศนี้แบบไม่ทันตั้งตัว โดยก่อนหน้านี้ก็อยู่กันอย่างยากลำบาก ต้องคอยเก็บอาการหลบซ่อนจากสังคมชาตินิยมแบบรัซเซีย ที่เป็นเหมือนหินยักษ์ หล่นทับกลางอกพวกเขาตลอดทุกวินาที และต้องทนอยู่กับเส้นทางชีวิตที่ดูเหมือนถูกกลั่นแกล้งอยู่ตลอดเวลา.สอดคล้องกับทัศนคติของชาวรัซเซียและแง่คิดที่ต่อต้านอะไรอื่นที่นอกจากหญิงชาย คนรัซเซียส่วนใหญ่ก็เห็นดีเห็นงามกับการออกกฎหมายนี้ แม้กลุ่มสิทธิเพื่อมนุษยชนในรัซเซียจะไม่เห็นด้วยก็ตาม แต่ด้วยพลังของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง กว่า 78% ถูกดูดไปหาปูตินทั้งหมด จึงเป็นการยากที่จะสามารถแย้งอะไรต่อมิอะไรได้.แม้จะมีการคว่ำบาตรตัดท่อน้ำเลี้ยงจากสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปเพื่อแสดงท่าทีต่อต้านกฎหมายดังกล่าว แต่ดูแล้วจะไม่ได้ผล ปูตินยังคงเดินหน้าสร้างกฎหมายกีดกันเหล่าผู้มีความหลากหลายทางเพศ ซึ่งคำพูดที่ทำให้เห็นแง่คิดที่ต่อต้านทันทีแบบไม่ต้องวิเคราะห์ ก็คือการบอกว่า "นโยายยอมรับความหลากหลายทางเพศถือเป็นความ ผิดพลาด!"