สิทธิ์ในการเข้าถึงเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ในบางประเทศถูกจำกัด เนื่องจากเหตุผลทางด้านศีลธรรมอันดี เช่นเดียวกันกรณีของ Xtube แหล่งรวมคอนเทนต์ของคนขี้เหงา ที่เป็นน้อง ๆ ของ Pornhub ได้ประกาศปิดเว็บไซต์ในวันที่ 5 กันยายน ที่จะถึงนี้ โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่ง ได้แคปภาพคำแถลงการณ์จาก Xtube ใจความว่า “เราภูมิใจในชุมชนที่เต็มไปด้วยสีสันแห่งนี้ตลอด 13 ปี ตั้งแต่ที่เราก่อตั้งเว็บไซต์ในปี 2008 เรายินดีอย่างยิ่งที่พวกคุณทุกคนร่วมกันแบ่งปันคอนเทนต์บนแพลตฟอร์มนี้ แต่น่าเสียดายที่เวลาของเรากำลังจะหมดลง และเราต้องย้ายไปอยู่ในทุกหญ้าสีเขียวในที่สุด”
.
โดยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีการยื่นฟ้อง MindGeek บริษัทแม่ของ Xtube จาก Visa ผู้ให้บริการทางการเงินในนามของโจทย์ที่ไม่ประสงค์ออกนามจำนวน 36 คน ซึ่งได้ต่อต้านเว็บไซต์ดังกล่าว เนื่องจากเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่มาการค้ามนุษย์ที่ใหญ่ที่สุด และได้ละเมิดกฎหมายโดยการเผยแพร่ภาพอนจารของเด็กในอเมริกาเหนือ รวมถึงที่อื่น ๆ โดยคำฟ้องดังกล่าวมีผลให้ Mastercard, Visa และ Discover ยุติการให้บริการทางการเงินกับ Pornhub ซึ่งอยู่ในเครือของ MindGeek เช่นเดียวกัน
.
ก่อหน้านี้ได้มีคอลัมน์พิเศษเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ New York Times ในช่วงเดือนธันวาคม เขียนโดย Nicholas Kristof ได้วิพากษ์วิจารณ์ต่อต้านเว็บไซต์อนาจาร ที่หาผลประโยชน์กับเด็ก ด้วยการเผยแพร่วิดีโอการล่วงละเมิดทางเพศและการข่มขืน ด้าน Rolling Stone ได้เผยแพร่บทความที่เป็นการโต้ตอบความเห็นของ Kristof เมื่อมีผู้ค้าบริการทางเพศต้องตกงานจากการที่เว็บไซต์ 18+ ถูกยกเลิกการให้บริการทางการเงิน
.
อย่างไรก็ตาม Laila Mickelwait ผู้ก่อตั้งแคมเปญ Traffickinghub เพื่อรวบรวมเสียงสนับสนุนในการปิดเว็บไซต์ Pornhub ได้เห็นชอบกับการระงับสื่อลามกที่เป็นการค้ามนุษย์ ด้าน Pornhub ได้โต้ตอบประเด็นนี้โดยการลบเนื้อหาที่ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนออกจากเว็บไซต์ และได้เพิ่มมาตรการยืนยันตัวตนของผู้สร้างคอนเทนต์ ซึ่งมาตรการนี้เป็นการตรวจสอบข้อมูลของผู้ค้าบริการทางเพศ โดยเฉพาะคนข้ามเพศบางคนที่ไม่ได้ระบุแหล่งข้อมูลที่เป็นการยืนยันตัวตน หรือการอัปเดตข้อมูลบัตรประชาชนของตัวเอง
.
ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวได้เป็นต้นแบบในการนำร่องกระบวนการยืนยันตัวตนที่เห็นผลได้ทันที เมื่อมีวิดีโอถูกลบออกจาก Pornhub โดยไม่มีเหตุผล แม้ว่าจะมีผู้ที่ออกมาต่อต้านเว็บไซต์อนาจาร แต่ Mindgeek ได้ยืนยันว่าบริษัทไม่ได้มีเจตนาทีจะค้ามนุษย์หรือหาผลประโยชน์ด้วยการเผยแพร่ภาพอนาจารของเด็ก ขณะเดียวกัน Exodus Cry กลุ่มขวาจัดที่เคร่งศาสนา และเป็นองค์กรที่อยู่เบื้องหลังแคมเปญ Traffickinghub ได้ระบุข้อความในหน้าเว็บไซต์ว่าการค้ามนุษย์เป็นบาปอันใหญ่หลวง และได้เชิญชวนให้พี่น้องสวดภาวนาเพื่อยุติการค้าหรือโฆษณาที่หาผลประโยชน์ในเรื่องเพศจากทั่วโลก
.
จากรายงานของ The Daily Beast เผยว่า Exodus Cry ก่อตั้งโดยกลุ่มที่มาสวดมนต์ประจำวันที่ the International House of Prayer (IHOP) ซึ่งโบสถ์แห่งนี้สร้างโดย Mike Bickle ผู้สอนศาสนา ผู้มีส่วนที่ก่อให้เกิดแนวคิดเกลียดกลัวคนรักเพศเดียวกันและต่อต้านชาวยิว โดยองค์กรดังกล่าวยังถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จุดชนวนกฎหมายต่อต้านเกย์ในประเทศยูกันดา ที่มีโทษประหารคนรักเพศเดียวกัน
.
ถึงแม้ว่า Exodus Cry จะพยายามแยกตัวออกมาจาก IHOP แต่มีรายงานระบุว่าเส้นทางการเงินของทั้งสองบริษัทมีความเชื่อมโยงกันตั้งแต่ปี 2018 โดย Exodus Cry และกลุ่มต่อต้านผู้ค้าบริการทางเพศได้ยืนยันว่าพวกเขาต้องการที่จะปกป้องผู้หญิงและเด็ก แต่กลุ่ม sex work ที่ออกมาเคลื่อนไหวได้โต้แย้งว่ามาตรการต่อต้านการค้ามนุษย์ของกลุ่มคนดีให้ผลที่ตรงกันข้าม
.
จากผลสำรวจของ Hacking/Hustling กลุ่มวิจัยเกี่ยวกับผู้ค้าบริการทางเพศ กล่าวว่ากฎหมายต่อต้านการค้ามนุษย์อย่าง Stop Enabling Sex Traffickers Act (SESTA) and Allow States and Victims to Fight Online Sex Trafficking Act (SESTA) ที่ผ่านการพิจารณาจากรัฐสภาในปี 2018 ได้สร้างผลกระทบกับ sex workers ในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งมีผู้ตอบแบบสอบถาม 72.5% เผยว่า ธุรกิจการให้บริการทางเพศสามารถเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมา
.
โดยในงานวิจัยยังได้กล่าวเพิ่มว่ากฎหมาย FOSTA-SESTA’s ได้อ้างถึงวัตถุประสงค์ที่อยากให้การค้ามนุษย์ลดน้อยลง แต่คำยืนยันจากผู้ตอบแบบสอบถามกล่าวว่ากฎหมายดังกล่าวมีส่วนทำให้คนตกงานและสร้างความยากจน ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบแรงงานผู้ค้าบริการทางเพศ ไม่ให้มีช่องทางในการหารายได้
.
มีรายงานเพิ่มเติมจากกลุ่มผู้สนับสนุนว่าการทำให้ sex work เป็นอาชญากรรม สร้างผลกระทบกับ LGBTQ อย่างไม่สมส่วน โดยเฉพาะกลุ่มคนข้ามเพศ โดยผลสำรวจจาก National Center for Transgender Equality (NCTE) ในปี 2015 พบว่าคนข้ามเพศ 19% ทำอาชีพค้าบริการเพื่อการดำรงชีพและมีที่อยู่อาศัย การทำให้การค้าบริการทางเพศเป็นอาชญากรรมจึงมีความเสี่ยงที่ทำให้คนข้ามเพศขาดรายได้โดยไม่จำเป็น
.
ดังนั้น การปิดตัวของ Xtube จึงไม่ได้เป็นการป้องกันการค้ามนุษย์ได้อย่างแท้จริง ซึ่งกลุ่ม sex workers ได้ออกมาประท้วงเพื่อต่อต้านการแทรกแซงช่องทางรายได้ของพวกเขาในช่วงปีที่ผ่านมา จากการออกมาต่อต้านเว็บไซต์สำหรับผู้ใหญ่ของกลุ่มขวาจัดจะทำให้การเลี้ยงชีพของผู้ค้าบริการทางเพศเป็นเรื่องยากกว่าเดิม และมีผลกระทบต่อรายได้ที่มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด
อ้างอิง: https://www.them.us/story/xtube-shutdown-latest-attack-right-wing-war-on-porn
ภาพโดย: Gerd Altmann จาก Pixabay
Follow ข่าวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: https://youngprideclub.com/