Lily Zheng เป็นผู้ให้คำปรึกษาด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมคนทุกกลุ่ม (DEI) ได้ให้สัมภาษณ์ว่ามีหลายบริษัทติดต่อมาเพื่อขอคำปรึกษาถึงแนวทางการตอบกลับคำเรียกร้องที่เกี่ยวข้องกับประเด็นความยุติธรรมทางเชื้อชาติ ซึ่งก็มีทั้งบริษัทที่แสดงจุดยืนแบบบังหน้า และบริษัทที่ตั้งใจจะเปลี่ยนแปลงไปถึงระบบโครงสร้าง
.
แม้ว่า COVID-19 จะทำให้งบประมาณด้าน DEI ของหลายๆ บริษัทถูกตัดไป แต่เหตุฆาตกรรมของ George Floyd และ Breonna Taylor ทำให้ธุรกิจในประเทศอเมริกาเริ่มตระหนักรู้ถึงความไม่เท่าเทียมทางเชื้อชาติในด้านที่ไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน ซึ่งประชาชนต่างก็กดดันให้บริษัทออกมาเป็นกระบอกเสียงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมและทวงคืนความยุติธรรมร่วมกันด้วย
.
หลายๆ บริษัทที่เป็นอิกนอร์แรนต์มาโดยตลอดต่างก็ไม่รู้ว่าจะต้องแสดงออกอย่างไร และถูกกดดันทั้งจากลูกค้าและพนักงาน ให้ออกมาแสดงจุดยืนที่เลือกข้างกับการขับเคลื่อนทางสังคม และต่อสู้เพื่อความยุติธรรมในครั้งนั้นอย่างมีเป้าหมาย หลายๆ บริษัทเองก็เลือกใช้ที่ปรึกษาด้าน DEI แต่กลับสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียของบริษัทก่อนที่จะได้รับคำปรึกษา และมักจะโพสต์อะไรอย่างเช่นการโพสต์รูปสีดำกับข้อความสีขาว ซึ่งการแสดงถ้ามันเฟคมันดูออก
.
Lily Zheng ได้เสนอว่า ถ้าบริษัทอยากจะประสบความสำเร็จในระยะยาว ควรจะให้ความสำคัญกับ DEI เป็นอันดับแรกๆ และต้องมีความสม่ำเสมอ
.
การฝึกอบรมด้าน DEI เพียงครั้งเดียวหรือสองครั้งอาจจะไม่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก แต่ในระยะยาว DEI สามารถสร้างรากฐานที่จะช่วยทั้งระบบของบริษัทได้
.
Lily Zheng เสริมอีกว่าสิ่งผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือบริษัทส่วนใหญ่มักจะลงงบประมาณในส่วนนี้ด้วยเศษเงิน พองบน้อย กิจกรรมก็น้อย ผลตอบรับก็น้อย และมักจะได้รับคำกล่าวหาว่าแสดงจุดยืนแบบทำการแสดงด้วยปากเปล่า
.
ส่วนข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดก็คือการทำงานกับประเด็น DEI แบบเป็นธุรกิจ ที่มีการนับจำนวนคน มีงบประมาน และมีการอำนาจการตัดสินใจ ซึ่งน่าจะทำให้ผลลัพธ์ออกมาชัดเจนในเชิงธุรกิจ มากกว่าที่จะมาจากความจริงใจ
.
หากถาม Lily Zheng ว่าการแสดงจุดยืนของบริษัทนี้เป็นการนำเอาการเมืองภายนอกเข้ามาสู่ที่ทำงาน และพยายามชักจูงให้พนักงานเชื่อกับจุดยืนนั้นๆ หรือไม่ Lily ก็ได้ให้คำตอบไว้ว่า การเมือง ประเด็นทางสังคม และประเด็นทางเศรษฐกิจ ล้วนเป็นเรื่องที่ไม่สามารถแยกออกจากบริษัทได้สิ้นเชิง บริษัทมักจะต้องชั่งน้ำหนักที่เกี่ยวกับประเด็นทั้งหลาย และเลือกแสดงจุดยืนที่สมเหตุสมผลมากที่สุด
.
แม้ว่าหลายๆ บริษัทจะเริ่มให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการรวมคนทุกกลุ่มแล้ว แต่เราก็ยังคงเห็นว่ายังมีหลายๆ บริษัทที่ใช้ประเด็นที่ไม่เหมาะสมมาทำการตลาด หรือแสดงจุดยืนที่ไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ซึ่งการประยุกต์ประเด็น DEI เข้ามาในโครงสร้างบริษัทไม่เพียงแต่จะช่วยในด้านภาพลักษณ์และด้าน Brand Loyalty เพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับบริษัทได้อีกด้วย!
.
อ้างอิง :https://www.npr.org/2021/06/16/1007337981/big-companies-are-finding-out-they-need-help-with-diversity-messaging?utm_medium=social&utm_term=nprnews&utm_campaign=npr&utm_source=twitter.com&s=04&fbclid=IwAR0KzTNohnxd7E62fyUGzJXKJSLFJHQWSMRPGgzKsCNt8l5DsPKOy12HylY
Follow ข่าวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: https://youngprideclub.com/
Facebook & Instagram & Twitter: @YoungPrideClub
