แอนโตนี บลิงเกน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ สหรัฐฯ แห่งพรรคเดโมเครต ของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ได้ทำตามที่เคยให้สัญญาไว้ก่อนหน้านี้ในการอนุญาตให้แขวนธง Pride อยู่ในเชือกเดียวกับธงอเมริกา บริเวณอาคารสถานทูตสหรัฐ ซึ่งเป็นการพลิกคว่ำการต่อต้านกลุ่มคนรักเพศเดียวกันของอดีตผู้นำสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และเป็นการปูทางสำหรับวันแห่งการต่อต้านกลุ่มเกลียดคนรักเพศเดียวกัน เกลียดคนข้ามเพศ และเกลียดคนรักมากกว่าสองเพศ (วันที่ 17 พ.ค.) และเฉลิมฉลองให้กับเดือนแห่ง Pride ช่วงเดือนมิถุนายน อีกด้วย
.
โดยแหล่งข่าววงในได้เผยถึงนโยบายการต่างประเทศ เผยว่าที่จริงแล้วสถานทูตและกงสุล ยังมีการสั่งห้ามและระเบียบราชการบางอย่างในการขึ้นธง Pride แต่ทางหัวหน้าฝ่ายบริหารได้ให้ทางเลือกในการแขวนธงหรือสัญลักษณ์บางอย่างเพื่อแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับชุมชน LGBTQ
.
ทั้งนี้สัญลักษณ์ดังกล่าวต้องตั้งอยู่บนความเหมาะสมในเงื่อนไขของแต่ละท้องถิ่น โดยสายรายงานของ บลิงเกน กล่าวว่า การนำธงหรือสัญลักษณ์มาใช้อาจเป็นการปลุกปลั่นผู้คนในประเทศหรือชนชาติให้หมดความชื่นชนในสิทธิของ LGBTQ “การแสดงออกเช่นนี้จะเป็นแรงสนับสนุนในการยกเลิกกฎหมายที่เป็นอันตรายกับ LGBTQ ที่ยังมีอยู่ ฉะนั้นสิ่งที่อเมริกากำลังทำตอนนี้จะต้องไม่ส่งผลตีกลับไปยังกลุ่มชายขอบของชุมชนความหลากหลายทางเพศทั้งในวันนี้และอนาคต”
.
ในตอนนี้ ทางการทูตสหรัฐฯ จะต้องหาหนังสืออนุมัติจากผู้นำอาวุโสของกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อยืนยันการแขวนธงอื่น ที่ไม่ใช่ธงอเมริกา ขณะเดียวกันสายรายงานของบลิงเกนได้ทำการย้ายพิธีการสำคัญดังกล่าว เพื่อการขึ้นธง Pride สำหรับ LGBTQ ณ อาคารสถานทูต
.
โดยในปี 2019 ไมก์ พอมเพโอ ซึ่งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ ณ ตอนนั้น ได้สั่งห้ามให้ขึ้นธง Pride ตรงบริเวณอาคารสถาทูตสหรัฐ ก่อนถึงเดือน Pride และเขาได้กล่าวกับเว็บไซต์ France24 ในตอนนั้นว่า “ธงที่จะโบกสะบัดหน้าสถานทูต ต้องเป็นธงอเมริกาเท่านั้น”
.
ในทางเดียวกันคำสั่งนี้น่าจะมาจากการสั่งห้ามขึ้นธงสีรุ้ง ของทรัมป์ ก่อนจะถึงการเฉลิมฉลองในเดือน Pride ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องก็ไม่สามารถฝ่าฝืนคำสั่งห้ามนี้ได้ ขณะที่สถานทูตอเมริกาในกรุงเยรูซาเลม ประเทศอิสราเอล ได้กางธง Pride บริเวณด้านข้างอาคาร โดยไม่แคร์คำสั่งใด ๆ ทั้งสิ้น
.
นอกจากนี้สถานทูตสหรัฐฯ ใน ออสโล, นอร์เวย์ และกรุงโซล เกาหลีใต้ ต่างร่วมกันประดับประดาธง Pride รอบ ๆ อาคาร เพื่อเป็นเฉลิมฉลองเดือน Pride อีกด้วย
.
ในที่สุดคำมั่นสัญญาจากรัฐมนตรีฯ สหรัฐ โดยการได้นำธง Pride ขึ้นสู่ยอดเสาอีกครั้ง เป็นการยืนยันว่า บลิงเกน จะสามารถเพิ่มสิทธิของ LGBTQ ในการดำเนินการระหว่างประเทศให้เป็นผลสำเร็จได้ และเป็นการเชิดใส่การต่อต้านชุมชนความหลากหลายทางเพศที่ทรัมป์เคยทำไว้ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
อ้างอิง: https://www.pinknews.co.uk/2021/04/23/us-embassy-lgbt-pride-flag-ban-joe-biden-anthony-blinken/?fbclid=IwAR0ki9uAI9ig1wJR-l3xxW1LFbWduQxvnHU9l5ffXyBKg3cxhHMNDZhlMpk
ภาพจาก: https://www.foxnews.com/politics/trump-embassies-pride-flag
Follow ข่าวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: https://youngprideclub.com/
