ซาราห์ เอเวอราด์ด “เหยื่อฆาตกรรม” ที่ทำทั้งเกาะอังกฤษตกอยู่ในความกลัว

“She was walking home”เสียงตะโกนโห่ร้องที่ออกมาพร้อมกับความรู้สึกโศกเศร้าเสียใจจากการจากไปของซาราห์ เอเวอราด์ด “เหยื่อฆาตกรรม”ที่ทำทั้งเกาะอังกฤษตกอยู่ในความกลัว และนี่เป็นเรื่องราวของเธอในวันที่เธอไม่ได้กลับบ้าน
.
ในวันที่ดูปกติสำหรับทุกคนในกรุงลอนดอน ซาราห์ เอเวอราร์ด วัย 33 ปีที่เธอเพิ่งไปเยี่ยมเพื่อนที่ย่านแคลปแฮม กรุงลอนดอน ในวันที่ 3 มีนาคม เธอออกบ้านเพื่อนช่วงพรบค่ำเดินไปตามถนนเพื่อกลับบ้านของเธอ ซึ่งในขณะเดียวกันก็คุยโทรศัพท์กับแฟนหนุ่มของเธอไปด้วย
.
ซาราห์ใช้เวลาเดินอยู่ประมาณ 40-50 นาทีเพื่อกลับบ้าน ด้วยความที่เธอรักในการออกกำลังกายอยู่แล้ว การเรียกแท็กซี่หรือขอให้เพื่อนไปส่งจึงไม่ใช่ทางเลือกของเธอ ประกอบกับย่านแคลปแฮม อยู่ในโซนที่ 2 ของกรุงลอนดอน มีแสงไฟส่องสว่างพร้อมกล้องวงจรปิดไปทั่ว จึงไม่น่ากลัวสำหรับการเดินกลับ
.
ในขณะที่ซาราห์เดินเข้าสู่ถนน A205 ก็ล่วงเวลามากว่า 14 นาทีแล้วที่เธอคุยโทรศัพท์กับแฟนของเธอก่อนจะวางสายไป และนั่นเป็นเสียงสุดท้ายของซาราห์ ก่อนเธอจะหายไป
.
เช้าวันรุ่งขึ้น ซาราห์ไม่ได้กลับบ้าน แฟนของเธอจึงได้แจ้งความคนหายกับตำรวจสก็อตแลนด์ยาร์ดว่า ซาราห์ หายตัวไปและติดต่อเธอไม่ได้ นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการค้นหาโดยสิ่งที่แฟนหนุ่มจะทำได้คือปิดป้ายประกาศตามหาคนหายไปทั่วกรุงลอนดอน
.
กว่า 750 ครัวเรือนรอบอาณาบริเวณแคลปแฮมถูกตรวจค้นทันที การค้นหาครั้งนี้ถือว่าใหญ่เอาการ กล้องวงจรปิดทุกซอกทุกมุมถูกดึงภาพเพื่อตรวจสอบและแกะร่องรอย และแล้วก็พบตัวซาราห์จนได้
.
กล้องวงจรปิดตัวหนึ่งในบริเวณที่เธอหายตัวไปสามารถจับภาพ ซาราห์ เอเวอราร์ด กับรถยนต์สีขาวยี่ห้อ Vauxhall ต้องสงสัย ซึ่งพบว่ารถคันดังกล่าวขับออกไปยังเมือง เคนท์ ห่างจากกรุงลอนดอนประมาณ 90 กิโลเมตร
.
การแกะรอยรถต้องสงสัยไปถึงเมืองเคนท์ยังไม่สามารถพบซาราห์ได้ในทันที และยังคงกระจายกำลังค้นหากันอย่างชุกลหุกทั่วทั้งเมือง แต่ในที่สุดก็พบเธอ ซาราห์ เอเวอราร์ด ในวันที่ 10 มีนาคม แต่ว่ามันสายเกินไป เธอเสียชีวิตไปแล้ว และคาดว่าผู้ก่อเหตุอาจจะทำอะไรกับเธอบางอย่างก่อนจะทำการฆาตกรรมและนำศพมาทิ้ง
.
การค้นหาผู้ต้องสงสัยยังคงดำเนินต่อไปในเมืองเคนท์ และต่อมาก็พบเบาะแส ชายวัย 48 ปี เวย์น คูเซนส์ เจ้าของรถ Vauxhall คันเดียวกันกับในจุดที่ซาราห์หายตัวไป ด้วยหลักฐานที่มัดตัว จึงยากที่จะหลุดจากการเป็นผู้กระทำการอันอุกอาจในครั้งนี้ได้
.
แต่สิ่งที่ทำให้ชาวลอนดอนต้องตกอยู่ในความหวาดกลัว นั่นเป้นเพราะ เวย์น คูเซนส์(ผู้ก่อเหตุ) มีอาชีพเป็น”ตำรวจ” เขามีชีวิตกับการทำงานในรัฐสภา และเดินลาดตระเวนสถานทูตบ่อยครั้ง โดยที่เวย์น คูเซนส์ ไม่เคยมีประวัติอาชญากรรมมาก่อนหน้านี้
.
“ตำรวจสก็อตแลนด์ยาร์ด” จัดเป็นกรใตำรวจที่ถือว่ามีความปลอดภัยมากที่สุดติดอันดับโลก บัดนี้ได้สร้างความหวาดระแวงไปทั่วทั้งกรุงลอนดอน หลายๆ คนตั้งข้อสังเกตุว่านี่อาจจะไม่ใช่คดีแรกที่เกิดขึ้น นี่ถือเป็นการลดทอนความศรัทธาในระบบความปลอดภัยครั้งยิ่งใหญ่ซึ่งนำมาสู่การประท้วงตามท้องถนนกรุงลอนดอนในขณะนี้
.
เป็นที่น่าสังเกตุว่าถึงแม้ระบบความปลอดภัยจะแน่นหนา ที่แม้จะเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องของระบบรักษาความปลอดภัยก็ไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยของผู้หญิง ซึ่งในขณะเธอจะใช้ชีวิตปกติ ก็สามารถกลายเป็นเหยื่อของอาชญากรรม และที่สำคัญ “อาชีพ” ไม่ได้เป็นตัวบ่งชี้ถึงความปลอดภัยและการเชื่อใจเสมอไป
.
นี่ชี้ให้เห็นว่า “ผู้หญิง” ยังคงตกเป็นเป้าหมายสำคัญของการก่ออาชญากรรม ผู้หญิงหลายล้านคนยังคงต้องใช้ชีวิตกันอย่างลำบากภายใต้ความหวาดกลัว ซึ่งไม่รู้ว่าวันไหนมันจะเกิดขึ้นกับพวกเขา ในขณะที่โลกยุคใหม่ได้สร้างอาชีพและนวัตกรรมที่พวกเขาคิดว่าจะสร้างความปลอดภัย แต่มันกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น มิหน่ำซ้ำสิ่งที่พวกเขาคิดว่ามันปลอดภัย แต่มันกลับไม่ปลอดภัยเสียเอง
.
อ้างอิง : WorkpointTODAY
: Sarah Everard: ‘Damning’ that women feel unsafe exercising alone
ภาพจาก : https://www.lbc.co.uk/news/sarah-everard-timeline-disappearance-missing-police-arrest-clapham-brixton/
Follow ข่าวอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่: https://youngprideclub.com/
Facebook & Instagram & Twitter: @youngprideclub