
“นักเรียนนักศึกษาญี่ปุ่นกับการปรับตัวมาเรียนออนไลน์ ญี่ปุ่นเก่งเทคโนโลยีเลยรับมือได้ง่าย จริงดิ”
.
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางสำนักข่าว NHK ได้เปิดเผยว่า 86.9% ของสถาบันในระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ ได้เลื่อนกำหนดการเรียนออกไป ในขณะที่ในจำนวนนี้มีเพียง 66.2% เท่านั้นที่กำลังมีการเรียนการสอนออนไลน์แทนการเรียนการสอนในชั้นเรียนตามปกติ โดยใน 66.2% นี้คิดเป็น
1) มหาวิทยาลัยแห่งชาติ มีการเรียนการสอนออนไลน์คิดเป็น 82.6% ของคลาสเรียนทั้งหมด
2) มหาวิทยาลัยรัฐบาล มีการเรียนการสอนออนไลน์คิดเป็น 55.2% ของคลาสเรียนทั้งหมด
3) มหาวิทยาลัยเอกชน มีการเรียนการสอนออนไลน์คิดเป็น 65.2% ของคลาสเรียนทั้งหมด
4) วิทยาลัยเทคนิค มีการเรียนการสอนออนไลน์คิดเป็น 75.4% ของคลาสเรียนทั้งหมด
.
เป็นที่น่าสังเกตว่า ถึงแม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องเทคโนโลยีล้ำสมัย แต่ในการปรับตัวเพื่อรับกับการเรียนออนไลน์นั้นทำได้ช้ากว่าที่หลายคนคาดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมหาวิทยาลัยของรัฐบาล ซึ่งมีคลาสเรียนออนไลน์แค่ประมาณกึ่งหนึ่งของคลาสเรียนทั้งหมด นอกจากนี้ทางสำนักข่าว NHK ยังเปิดเผยว่า ในการเรียนแบบออนไลน์ก็ยังพบปัญหาเรื่องระบบล่มเป็นประจำซึ่งยังต้องทำการแก้ไขกันต่อไป
.
ทาง Charlotte V. Murakami ซึ่งเป็นนักวิชาการด้านการศึกษาของประเทศญี่ปุ่นท่านหนึ่ง ได้ให้สัมภาษณ์กับทางเว็บไซต์ Japan Times ว่ายังมีพนักงานของมหาวิทยาลัยหลายแห่งที่ยังไม่ทราบถึงวิธีการใช้ Drive เพื่อบันทึกข้อมูลและไม่รู้จัก Cloud Storage และระบบที่วางไว้ซับซ้อนเกินไปทำให้แชร์ข้อมูลระหว่างแคมปัสได้ไม่สะดวก ในขณะที่นักวิชาการท่านอื่นก็ลงความเห็นว่าสถานการณ์โควิด-19 เป็นเหมือนกระดิ่งที่สั่นเตือนวงการการศึกษาของญี่ปุ่นว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องนำเอาเทคโนโลยีมาใช้สนับสนุนด้านการศึกษาอย่างจริงจัง เพราะจุดอ่อนของวงการการศึกษาที่ญี่ปุ่นคือ เคยชินกับการศึกษาแบบเก่า ซึ่งเป็นลักษณะของการป้อนความรู้ให้นักศึกษาโดยไม่เน้นการทำโปรเจ็คเป็นทีมทั้งๆที่การทำงานร่วมกันเป็นโปรเจ็คแบบออนไลน์จะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้ฝึกการแชร์ไอเดียและทำงานร่วมกันเป็นทีม
.
สิ่งที่พอจะดีใจได้คือ หลายมหาวิทยาลัยมีการช่วยเหลือนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์โดยการให้ยืมคอมพิวเตอร์และสัญญาณ Wifi ในการเรียนออนไลน์ เช่นเดียวกับหลายมหาวิทยาลัยในประเทศไทย
.
ช่วงนี้มีข่าวดราม่าในไทยออกมาวันต่อวันเรื่องความไม่พร้อมในการปรับตัวเข้าสู่การเรียนออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การเรียนไม่มี หรือครูที่สอนออนไลน์ยังไม่เก่งพอที่จะนำองค์ความรู้มาเผยแพร่ในวงกว้างได้ ถ้าสอนความรู้ที่ผิดไปเด็กก็จะจำกันไปทั้งประเทศ
น่าเห็นใจวงการการศึกษาไทย แต่ที่อยากให้มีกำลังใจ เพราะประเทศที่ได้ชื่อว่าเจริญรุดหน้าอย่างญี่ปุ่นก็ยังต้องสู้เหมือนกัน
.
โดย คอลัมน์นิจ
.
อ่านเพิ่มเติม:
.
อ้างอิง:
– https://www3.nhk.or.jp/news/html/20200515/k10012430491000.html
.
Follow ข่าวอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่: https://youngprideclub.com/
Facebook & Instagram & Twitter: @YoungPrideClub #YoungPrideClub #สังคมญี่ปุ่น